จะเริ่มทำธุรกิจวันนี้ ต้องคิดเรื่องอะไรบ้าง

ในยุคที่ค่าครองชีพและราคาบ้านสูงขึ้นทุกวัน การทำงานประจำ 9-5 อย่างเดียวอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ที่สุด หลายคนเริ่มรู้สึกเหมือนกันว่า “เราน่าจะทำอะไรเพิ่มได้มากกว่านี้”
 
ผมเพิ่งได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนสนิทหลายคนช่วงหลังโควิด เราพูดถึงธุรกิจมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น หลายอันเราก็นึกได้ก่อน แต่ไม่ได้ลงมือทำ เพราะ ยังไม่พร้อม, ยังไม่กล้า, ยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มตรงไหน.. สุดท้ายคำถามที่วนกลับมาตลอดคือ “แล้วเมื่อไหร่ถึงจะพร้อม?”
จริงๆ ไม่มีใครบอกได้หรอกครับว่าตอนไหนคือ “เวลาที่ใช่”
 
ถ้าคุณกำลังคิดเริ่มต้นธุรกิจ ผมชวนคุณลองถามตัวเอง 5 ข้อนี้เพื่อให้คุณเดินไปในทางของคุณด้วยความมั่นใจนะครับ


1. ทุกวันนี้คุณมีรายจ่ายรายเดือนเท่าไหร่? 

จดแยกให้ชัดเลยครับ จะได้ตั้งเป้าหมายด้วยความเข้าใจ เพราะเงินเป็นสิ่งสำคัญขาดไม่ได้ มีเงินเก็บเท่าไหร่ ใช้จ่ายเท่าไหร่ ถึงจุดไหนต้องเลิก จุดไหนลาออกได้ จุดไหนกลับไปทำงานประจำ
 
รายจ่ายจำเป็น: ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำ-ไฟ-เน็ต, ประกัน, ค่าเดินทาง
รายจ่ายฟุ่มเฟือย: Grab, กาแฟรายวัน, subscription ที่ไม่ได้ใช้, เสื้อผ้า, gadget ใหม่

ยิ่งจดละเอียด เราจะยิ่งรู้ว่า “เราต้องหาเงินอย่างน้อยเท่าไหร่ต่อเดือน ถึงจะอยู่ได้แบบไม่เครียด” เพราะการเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่แค่ลงทุน มันคือการ “แบกค่าใช้จ่ายของชีวิต” ระหว่างใช้เวลาทำให้ธุรกิจโต


2. ธุรกิจที่อยากทำ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่?

ไม่ต้องเริ่มใหญ่ครับ ยุคนี้เค้าเรียกว่า Proof of Concept (POC) คือเอาไอเดียมา “ทดลองทำจริง” กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเล็กก่อน ไม่ต้องรีบลงเงินก้อนใหญ่เปิดร้าน หรือผลิตทีละพันชิ้น หมื่นชิ้น
 
ตัวอย่างที่เห็นมา:
  • เพื่อนผมชอบทำขนมมาก ตอนแรกอยากเปิดคาเฟ่ แต่รู้ว่าต้นทุนสูงเลยเริ่มจากทำเบ
    เกอรี่ส่งร้านกาแฟ 
    เริ่มจากอบในครัวที่บ้าน ส่งร้านเดียว ขายแค่เมนูเดียว จนตอนนี้ส่ง 10 ร้าน สร้างรายได้เท่าเงินเดือนงานประจำแล้ว
คำแนะนำ:
  • ให้มองที่การนำ Feedback คำแนะนำจากลูกค้ามาวิเคราะห์แล้วปรับปรุงสินค้าของเรา
  • มองที่ “ยอดขายรวม” และคำนวณกำไรต่อชิ้นให้ละเอียด
  • ขายน้อยชิ้นกำไรยังน้อย ถ้าขายเยอะขึ้น จาก 10 ชิ้นเป็น 100 ชิ้น อย่าลืมต่อรองกับคู่ค้า, Suppliers หลังจากสั่งเยอะขึ้น สั่งสม่ำเสมอ ทำให้ต้นทุนเราลดลงโดยที่คุณภาพไม่ลดลง

3. สิ่งที่คุณชอบทำ ถ้าเอามาขาย มีตลาดไหม?

หลายคนเริ่มต้นจาก Passion แต่ไม่ได้ถามเลยว่า “ตลาดพร้อมจ่ายหรือเปล่า?”
ลองตอบ 3 ข้อนี้:
  • คนทั่วไปอยากซื้อไหม?
  • เขาซื้อบ่อยแค่ไหน?
  • กำไรคุ้มเวลาเราหรือเปล่า?

ยกตัวอย่าง

  • เพื่อนคนหนึ่งชอบกล้องฟิล์มมาก เขาเริ่มจากซื้อกล้องฟิล์มมาสะสม ลองโพสต์ขายต่อเริ่มจากเพจเล็กๆ จนตอนนี้ทำลงขายทุกสัปดาห์ สร้างรายได้ดีมาก แม้ตลาดไม่ใหญ่มาก แต่ลูกค้าพร้อมจ่าย เจ้าตัวรู้ว่าต้องหากล้องคุณภาพดีราคาไม่สูงจากที่ไหน
  • อีกคนขายหมูกรอบแช่แข็ง ขายผ่าน LINE และ Facebook ส่งทั่วประเทศ
    จุดแข็งคือ “ลูกค้าซื้อซ้ำ” และเขาควบคุมต้นทุนได้ดี กำไรต่อชิ้นไม่ได้สูง แต่ “สเกล” ได้
ไม่จำเป็นต้องทำของให้ทุกคนใช้ แต่ต้องแน่ใจว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่อยากจ่ายให้คุณซ้ำๆ


4. เริ่มจาก Small Project นอกเวลางาน

ไม่ต้องรีบลาออกครับ วางแผนแล้วต้องลงมือทำผมเตรียมตัวอยู่เป็นปี ใช้วิธีแบบ Solo Entrepreneur ลองทำงานหลังเลิกงาน วันหยุด หรือเวลาเล็กๆ พลักหินจนกว่าจะขยับ จนหินเริ่มกลิ้งแล้วคุณจะรู้ว่าคุณทำเองได้แค่ไหน คุณต้องการใครเป็นเพื่อนร่วมทางบ้าง
 
พอคุณเดินไปถึงจุดนึง คุณจะพบว่าถึงเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยคุณจ้าง freelance ที่ถนัดเฉพาะทาง ไม่ต้องเก่งที่สุดในทุกๆ ด้าน, ใช้ระบบ automation / no-code tools ให้ช่วยแบ่งเบา
 
ที่สำคัญที่สุดใช้ฐานลูกค้าเล็กๆ ช่วยบอกคุณว่าคุณเดินมาถูกทางไหม? รับฟัง แยกแยะ นำไปปรับปรุง ลูกค้าไม่ได้ซื้อของเพราะราคาถูกที่สุด แต่ซื้อของเพราะเค้าตามหาสิ่งๆ นี้...
 
ตัวอย่างที่ผมเคยเจอ:
  • เพื่อนอีกคนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ทำแค่เสาร์อาทิตย์ เริ่มจากโพสต์ลง TikTok เจอว่าพอโพสต์แบบ Oversize ผลตอบรับดี ยอดขายดี ลูกค้าสนใจมากๆ ก็สั่งผลิตแบบเดียว 50 ตัว ขายหมดใน 2 วัน
  • หลังจากนั้นพูดคุยกับลูกค้าจนได้รู้ว่าลูกค้าชอบผ้าที่เลือกใช้ จึงค่อยเพิ่มสินค้าที่ใช้ผ้าแบบเดียวกัน
  • อย่าคิดว่าต้องลาออกก่อนถึงจะเริ่มได้ เริ่มให้ได้แบบเล็กๆ แล้วค่อยตัดสินใจว่า “ธุรกิจนี้ควรไปต่อไหม”


5. จากงานประจำ 9 to 5 จะเป็น งาน 24/7 คุณรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?

ช่วงเซ็ตระบบ ลงเสาเข็ม ทำให้ธุรกิจของคุณเดินไปข้างหน้า คุณจะทำงานเหนื่อยกว่าตอนคุณทำงาน คุณรับความเหนื่อยและความเสี่ยงได้ขนาดไหน? “ความกลัว” และ “ความเสี่ยง” เป็นของคู่กัน

ลองถามตัวเองดู:

  • ถ้าธุรกิจไปไม่รอด คุณจะเสียหายแค่ไหน? รับได้ไหม?
  • ถ้าธุรกิจไปได้ดี คุณพร้อมทิ้ง comfort zone ไหม?
  • ถ้ามีคนรอบข้างไม่เชื่อ คุณยังเชื่อในตัวเองอยู่ไหม?
อย่ารอให้พร้อม 100% เพราะไม่มีวันนั้น แต่ให้ค่อยๆ เดินไปข้างหน้า ทีละก้าว
ขอแค่คุณรู้ว่า “คุณกำลังทำเพื่อตัวเองในอนาคต”


สรุปสั้นๆ ก่อนจบบทความนี้:

  • เริ่มจากรู้ “ภาระที่คุณต้องแบก” ต่อเดือน
  • ประเมินเงินลงทุน เริ่มจาก POC ไม่ต้องผลิตใหญ่
  • หาตลาดให้เจอ: ใครซื้อ? ซื้อบ่อยไหม? กำไรเท่าไหร่?
  • เริ่มเล็กๆ นอกเวลางาน ใช้คนที่เก่งกว่าช่วยในจุดที่เราไม่ถนัด
  • ถามตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
 
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อผมเถอะครับ คุณน่าจะ “พร้อมมากกว่าที่คุณคิด” แล้วก็ได้
ขอแค่ลงมือเล็กๆ วันละก้าว แล้วเรียนรู้จากของจริง ✌️
 
🧠 หากบทความนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้น
 ฝากแชร์ต่อให้เพื่อนที่กำลังจะเริ่มธุรกิจเหมือนกันนะครับ
 #basicmasterytalk #พื้นฐานที่ดีจะพาเราไปได้ไกล
 
Chananvach & Nelinya Wuttidejsittiwong
Basicmastery.co
กลับไปยังบล็อก