คำนวณต้นทุนเปิดร้านส้มตำให้มีกำไร: ทำธุรกิจของตัวเอง ต้องมีกำไร

การเปิดร้านส้มตำเป็นธุรกิจที่สนุก แต่การทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จและมีกำไรต้องมีการคำนวณต้นทุนที่แม่นยำและการวางแผนที่ดี มาดูวิธีคำนวณต้นทุนการเปิดร้านส้มตำและเคล็ดลับในการจัดการเพื่อให้ร้านของคุณมีกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน


การคำนวณต้นทุนเปิดร้านส้มตำ

การคำนวณต้นทุนเปิดร้านส้มตำสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้:

1. ต้นทุนวัตถุดิบ (Food Cost)

วัตถุดิบคือหัวใจหลักของร้านส้มตำ การซื้อวัตถุดิบคุณภาพดีและราคาสมเหตุสมผลจะช่วยให้รสชาติอาหารดีและกำไรดีขึ้น

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนวัตถุดิบต่อจาน:

  • มะละกอ 200 กรัม: 4 บาท
  • พริก 5 กรัม: 1 บาท
  • มะนาว 1 ลูก: 3 บาท
  • น้ำปลา 15 มิลลิลิตร: 1 บาท
  • น้ำตาล 10 กรัม: 1 บาท
  • เครื่องปรุงอื่นๆ: 2 บาท
  • รวมต้นทุนวัตถุดิบต่อจาน: 12 บาท

2. ต้นทุนแรงงาน (Labor Cost)

แรงงานคือส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ค่าแรงพนักงาน เช่น คนตำส้มตำ พนักงานเสิร์ฟ และพนักงานทำความสะอาด ต้องถูกคำนวณให้ดีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนแรงงานต่อเดือน:

  • คนตำส้มตำ 1 คน: 12,000 บาท
  • พนักงานเสิร์ฟ 1 คน: 8,000 บาท
  • พนักงานทำความสะอาด 1 คน: 7,000 บาท
  • รวมต้นทุนแรงงานต่อเดือน: 27,000 บาท

3. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)

ต้นทุนคงที่คือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบำรุงรักษา เป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนคงที่ต่อเดือน:

  • ค่าเช่าร้าน: 10,000 บาท
  • ค่าน้ำ-ค่าไฟ: 4,000 บาท
  • ค่าบำรุงรักษา: 1,000 บาท
  • รวมต้นทุนคงที่ต่อเดือน: 15,000 บาท

4. ต้นทุนแปรผัน (Variable Cost)

ต้นทุนแปรผันคือค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือยอดขาย เช่น ค่าวัตถุดิบเพิ่มเติม ค่าบรรจุภัณฑ์

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนแปรผันต่อจาน:

  • ค่าบรรจุภัณฑ์: 2 บาท

การคำนวณราคาขาย

การคำนวณราคาขายคือขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ร้านของคุณมีกำไร หลังจากทราบต้นทุนทั้งหมดแล้ว คุณสามารถเพิ่มกำไรที่ต้องการในราคาขายได้

ตัวอย่างการคำนวณราคาขาย:

  • ต้นทุนวัตถุดิบต่อจาน: 12 บาท
  • ต้นทุนแปรผันต่อจาน: 2 บาท
  • รวมต้นทุนต่อจาน: 14 บาท
  • ลองตั้งราคาที่: 40 บาท
  • กำไรที่ได้: = 185% (40/14)-1

การคำนวณกำไรสุทธิ

การคำนวณกำไรสุทธิคือการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกจากรายได้รวม ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่ายแรงงาน ค่าใช้จ่ายคงที่ และค่าใช้จ่ายแปรผัน

ตัวอย่างการคำนวณกำไรสุทธิต่อเดือน:

  • ยอดขายต่อเดือน (สมมติขายได้ 1,000 จาน): 40 บาท x 1,000 จาน = 40,000 บาท
  • ต้นทุนรวมต่อจาน: 14 บาท x 1,000 จาน = 14,000 บาท
  • ค่าแรงต่อเดือน: 27,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน: 15,000 บาท
  • รายจ่ายต่อเดือนรวม 42,000 บาท + ต้นทุนต่อจาน 14,000 บาท
  • กำไรสุทธิ: 40,000 - 14,000 - 27,000 - 15,000 = -16,000 บาท (ขาดทุน)
  • อย่าลืมว่าอันนี้ขายส้มตำเมนูเดียวเลย 1,000 จานต่อเดือน ฟังดูเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าคิดเป็นรายวันย ตกวันละ 33 จาน ไม่ได้ยากเลยใช่ไหมครับ?

ตัวอย่างคำนวณรายได้ต่อใบเสร็จ

  • ลองคำนวณเป็นรายได้ต่อใบเสร็จ จะทำให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น
  • หากลูกค้ามักจะสั่งส้มตำ 2 จาน คอหมูย่าง หรือไก่ย่าง ข้าวเหนียว คิดว่ารายได้ที่ติดลบอยู่ 16,000 บาท 
  • ความยากอยู่ตรงนี้ครับ เพราะเรามีรายจ่ายต่อเดือนอยู่ 42,000 บาท การขายได้เยอะขึ้น หมายถึง ต้นทุนรวมต่อจานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
    • ส้มตำ 2 จาน 80 บาท
    • คอหมูย่าง 1 จาน 80 บาท
    • ข้าวเหนียว 2 ห่อ 20 บาท
    • รายได้บิลนี้จะ 80+80+20 = 180 บาท
    • หากจำลองต้นทุนรวมของใบเสร็จนี้ 60 บาท
    • กำไรสุทธิ = 120 บาท
    • เราต้องขายได้ 63,000 บาท (180x350 ออเดอร์)
    • เพื่อให้เรานำเงินไปจ่าย (42,000 ค่ารายจ่ายต่อเดือน และค่าต้นทุน วัตถุดิบ 350x60 = 21,000 บาท)
    • คำถามคือ ถ้าอยากได้กำไรเดือนละ 50,000 หลังหักค่าต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น จะต้องทำยอดเท่าไหร่?
    • นี้ยังไม่รวมเงินต้นที่ลงทุนเปิดร้าน ต้นทุนรีโนเวท และอุปกรณ์ต่างๆ
    • หากต้องการคำนวณที่แม่นยำ basicmastery.co ออกแบบไฟล์ให้กรอกตัวเลขไม่กี่ตัวแล้วได้คำตอบทันนี้
      • ใช้ง่าย ปลอดภัย ช่วยผู้ประกอบการไปแล้วมากกว่า 800 ธุรกิจ
      • ข้อมูลของคุณจะไม่รั่วไหลเพราะผู้จัดทำไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้

เคล็ดลับในการจัดการต้นทุนและเพิ่มกำไร

  1. เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล: การเลือกวัตถุดิบที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้
  2. ควบคุมปริมาณการใช้วัตถุดิบ: การใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียจะช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้มาก
  3. ปรับปรุงเมนูและสูตรอาหาร: ลองปรับปรุงเมนูและสูตรอาหารเพื่อให้สามารถใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่
  4. ติดตามและวิเคราะห์ยอดขาย: การติดตามยอดขายและวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงการบริหารจัดการและการตั้งราคาขายได้อย่างเหมาะสม
  5. ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ: การใช้โปรแกรมคำนวณต้นทุนและจัดการสต็อกวัตถุดิบจะช่วยให้การคำนวณและติดตามต้นทุนเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว

สรุป

การคำนวณต้นทุนเปิดร้านส้มตำอย่างแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านของคุณมีกำไร การรู้จักวิธีคำนวณและการใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารจัดการจะทำให้คุณสามารถควบคุมต้นทุนและเพิ่มกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ในร้านของคุณเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน

กลับไปยังบล็อก